ต้นไม้ทรงปลูกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
![](https://finearts.go.th/uploads/tinymce/source/67/%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4/1.jpg)
ต้นไม้ทรงปลูกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
เมื่อครั้งที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีนั้น ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สวรรควรนายก เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๒๗ และในคราวนั้นทรงปลูก ต้นเสลา เป็นที่ระลึกขึ้นต้นหนึ่งซึ่งยังคงแผ่กิ่งก้านสาขาคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้นับเป็นเวลากว่า ๓๐ ปี
เสลา เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบมีความสูงเฉลี่ย ๑๐ – ๒๐ เมตร ชอบแสงแดดและทนแล้งได้ดีเปลือกลำต้นมีสีเทาเข้มเกือบดำ ผิวขรุขระ มีรอยแตกเป็นร่องยาวตื้น ๆ ปลายกิ่งย้อยห้อยลง ใบค่อนข้างหนา มีขนนุ่มทั้งสองด้าน ออกดอกเป็นช่อตามง่ามใบและปลายกิ่ง มีหลายสี เช่น สีม่วง สีม่วงอมแดง สีม่วงกับขาว มักออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม – มีนาคม
ต้นเสลาเป็นไม้ที่มีประโยชน์มากเพราะนอกจากจะเป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกกันทั่วไปแล้ว เนื้อไม้ยังค่อนข้างแข็งแรง สามารถนำมาทำเครื่องไม้เครื่องมือ พื้น ตง (ไม้เครื่องเรือนที่วางบนหลังคานสำหรับรองพื้นกระดานหรือฟาก) หรือรอด (ไม้ที่สอดรูเสาทั้งคู่สำหรับรับกระดานพื้นเรือน) ได้ ส่วนเปลือกนำไปใช้สมานแผล แก้ท้องเสีย เป็นต้น และเป็นไม้มงคลที่เชื่อว่าจะทำให้มีฐานะสูงขึ้น มั่นคง แข็งแรง ดังนั้นต้นเสลาทรงปลูกต้นนี้จึงเปรียบเสมือนคำอวยพรซึ่งพระราชทานไว้ให้ภารกิจของกรมศิลปากรดำเนินไปได้อย่างมั่นคงเช่นเดียวกับต้นเสลา
(จำนวนผู้เข้าชม 845 ครั้ง)