ความผิดพลาดจากการผลิตสังคโลก
![](https://finearts.go.th/uploads/tinymce/source/67/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81/1.jpg)
การผลิตสังคโลกในอดีตนั้น ความเชี่ยวชาญของช่างปั้นและประสบการณ์ที่ได้จากการลองผิดลองถูกถือเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากในสมัยก่อนยังไม่มีเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยให้การผลิตเครื่องสังคโลกมีประสิทธิภาพ ในบางครั้งการผลิตเครื่องสังคโลกจึงเกิดความผิดพลาดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความผิดพลาดที่เกิดจากการผลิตสังคโลกมีหลายกรณี เช่น การแตกราน เกิดจากตัวเคลือบและเนื้อดินปั้นขยายหรือหดตัวไม่เท่ากัน ทำให้ผิวเคลือบมีรอยแตกเหมือนร่างแห น้ำเคลือบแยกตัว มีสาเหตุการเกิดหลายประการ เช่น เนื้อดินปั้นเปียกชื้น มีฝุ่นละอองจับอยู่ที่ผิวดินก่อนเคลือบ หรือน้ำเคลือบข้นเกินไป ทำให้สังคโลกที่ได้มีช่องว่างที่เห็นผิวดินเพราะไม่มีเคลือบติดอยู่ น้ำเคลือบไหลตัว เป็นผลมาจากการเผาด้วยอุณหภูมิสูงเกินไป หรือชุบน้ำเคลือบหนาเกินไป ส่งผลให้น้ำเคลือบไหลตัวเป็นหยด การแตกร้าว มีสาเหตุมาจากการชุบเคลือบหนาเกินไป หรือนำภาชนะออกจากเตาในขณะที่ยังร้อนอยู่ และเมื่อพบกับอุณหภูมิภายนอกที่ต่ำกว่ามาก ภาชนะจึงแตกร้าว การบิดเบี้ยว เกิดจากการเผาภาชนะด้วยความร้อนสูงเกินไป หรือตั้งภาชนะอยู่ใกล้เปลวไฟมากเกินไป ทำให้สังคโลกเกิดการบิดเบี้ยวเสียรูปทรง
แม้ว่าสังคโลกกลุ่มนี้จะไม่ใช่ผลงานที่สมบูรณ์แต่ก็ถือเป็นโบราณวัตถุสำคัญที่แสดงถึงความพยายามของช่างในการผลิตเครื่องสังคโลก และเป็นตัวอย่างของบทเรียนจากความผิดพลาดที่ทำให้เราได้เรียนรู้วิธีการผลิตเครื่องปั้นดินเผาของคนในอดีตเพื่อนำไปใช้พัฒนาต่อยอดต่อไปได้
(จำนวนผู้เข้าชม 816 ครั้ง)